Digital Audio Professional

กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ สมัครสมาชิก.

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
การค้นหาขั้นสูง  

ข่าว:

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน  (อ่าน 115234 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

chang09

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 34
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2012, 10:55:38:AM »

โอพระเจ้าจอร์จ LABGRUBPEN หรือ CROWN ตัวTOPกำลังจะออกอาละวาดแล้ว
บันทึกการเข้า

jt.caraudio

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 8
  • ฝันให้ไกล ไปให้ถึง
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2012, 11:12:45:AM »

 :afro:สุดยอดมากครับ รอติดตามตอนต่อไปครับ
บันทึกการเข้า
เจที มิวสิค 154หมู่4 บ้านสว่าง ต.สว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด 45110 กิติกร พรมโยธา เลขที่บัญชี 4110527422 กรุงไทย สาขา ร้อยเอ็ด

Rek_man

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 3
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: สิงหาคม 30, 2012, 08:34:43:PM »

ติดตามผลงานมาโดยตลอดไม่เคยทำให้ผิดหวัง
บันทึกการเข้า
ดิเรก โกฉิม 087-4973689
33/3 ม.4 ต.นครชัยศรี อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 73120

DIGITCLASS™

  • เจ้าของกิจการ
  • Hero Member
  • *****
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1726
  • ดิจิตอลสวิตชิ่งตัวจริง
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2012, 07:42:14:AM »

 :1dd01: :1dd01: :1dd01:
บันทึกการเข้า
อธิธัช ศุภโชคธนโชติ (ทิวา)
บริษัท ดิจิทคลาส จำกัด
7/102 หมู่ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120

vesper

  • VIP1
  • Jr. Member
  • ***
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 83
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: กันยายน 06, 2012, 08:45:00:PM »

ออกแบบภาคจ่ายไฟ Class-TD ที่เห็นหลายท่านทำกันอยู่ก็จะเป็นระบบ EEEngine จาก YAMAHA ซึ่งสร้างง่ายไม่ซับซ้อน แต่เมื่อเทียบประสิทธิภาพกับ Class-TD ของ Lab.xxx แล้ว ประสิทธิภาพจะสูงกว่าเกิดความร้อนน้อยกว่าระบบ EEEngine
ซึ่งความร้อนส่วนหนึ่งของ EEEngine เกิดจากภาค High-Speed Voltage Buffer เป็นวงจรจ่ายแรงดันช่วยชุด Mosfet หรือ TR สวิตชิ่ง   เมื่อประสิทธิภาพสูงกว่า นั้นย่อมหมายถึงกำลังวัตต์ขาออกจะมากกว่าในขณะที่ใช้แหล่งจ่ายไฟตัวเดียวกัน :afro:
งานนี้ต้องขอยืมสุดยอดวงจรภาคจ่ายไฟ Class-TD ของ Lab.xxx มาใช้คงไม่ว่ากัน  :34: :34: แอมป์ค่ายใหญ่ที่ทำคลาส HD ในไทยก็ใช้วงจรจาก Lab.xxx เหมือนกัน  :icecream:
ของตั้งชื่อใหม่ว่า TD+ และกัน  :33:
ทำการออกแบบลายปริ้น ทดสอบ ดัดแปลงจากวงจรต้นแบบเล็กน้อย เพิ่มวงจร VI-limiter จับแรงดันที่ขา RE ของ TR เอ้าพุต กรณีสายลำโพงช๊อตจะไม่เกิดความเสียหาย  ลงอุปกรณ์ต้นแบบไปประมาณ 90% หน้าตาก็ประมาณนี้ ใช้วาลาประมาณ 1 เดือนกว่าจะเสร็จ :35:
พี่ทิวาครับ class d ที่จ่ายไฟทำงานที่ความถี่กี่ Khz ครับ
บันทึกการเข้า

DIGITCLASS™

  • เจ้าของกิจการ
  • Hero Member
  • *****
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1726
  • ดิจิตอลสวิตชิ่งตัวจริง
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: กันยายน 06, 2012, 09:08:44:PM »

ต้องเรียกว่า Buck converter ถึงจะถูกต้องครับ ความถี่ไม่คงที่ครับแปรตามสัญญาณเสียงอยู่ระหว่าง 75k-400k ครับ
บันทึกการเข้า
อธิธัช ศุภโชคธนโชติ (ทิวา)
บริษัท ดิจิทคลาส จำกัด
7/102 หมู่ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120

vesper

  • VIP1
  • Jr. Member
  • ***
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 83
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: กันยายน 06, 2012, 09:15:10:PM »

ต้องเรียกว่า Buck converter ถึงจะถูกต้องครับ ความถี่ไม่คงที่ครับแปรตามสัญญาณเสียงอยู่ระหว่าง 75k-400k ครับ
ตัว IC HCPL2400 ควบคุมการจ่ายสัณญาณให้มอสเฟตหรือครับ
บันทึกการเข้า

DIGITCLASS™

  • เจ้าของกิจการ
  • Hero Member
  • *****
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1726
  • ดิจิตอลสวิตชิ่งตัวจริง
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: กันยายน 06, 2012, 09:24:09:PM »

เป็นแค่ Opto เฉยๆครับ ไว้แยกกราวด์ขับมอสเฟสครับ ทำงานคล้ายๆหม้อแปลงเกทไดร์นั้นล่ะครับ
บันทึกการเข้า
อธิธัช ศุภโชคธนโชติ (ทิวา)
บริษัท ดิจิทคลาส จำกัด
7/102 หมู่ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120

vesper

  • VIP1
  • Jr. Member
  • ***
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 83
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: กันยายน 07, 2012, 06:54:46:AM »

พี่ทิวาครับความถี่ 614Khz เค้าเอาไว้ทำอะไรครับ...... :011:
บันทึกการเข้า

DIGITCLASS™

  • เจ้าของกิจการ
  • Hero Member
  • *****
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1726
  • ดิจิตอลสวิตชิ่งตัวจริง
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: กันยายน 07, 2012, 07:34:53:AM »

เป็นความถี่ที่ได้จาก crystal osc แล้วมาหารความถี่ลงให้เลือ 614k เอาท์พุตจะเป็นรูปสามเหลี่ยม ไว้เทียบกับสัญญาณเสียงเพื่อสร้างเป็นสัญญาณพัลล์(PWM) เพื่อขับมอสเฟทต่อไป ความถี่นี้คือความถี่สวิตชิ่งขนาด 614k คงที่นั้นเอง ผมเข้าใจว่าท่านดูจาก servicemanual ของ lab.gruppen รุ่น FP-series มาแน่นอน ซึ่งเป็นรุ่นเก่า แต่ปัจจุบันทาง lab.gruppen ได้พัฒนาวงจรในจุดนี้ให้มีความซับซ้อนน้อยลง ใช้อุปกรณ์ TR,D,R,C เพียงไม่กี่ตัวก็สามารถทำงานได้ ความถี่สวิตชิ่งจะแปรตามสัญญาณที่เข้ามา คล้ายๆระบบ eeengine :thumbsup:
บันทึกการเข้า
อธิธัช ศุภโชคธนโชติ (ทิวา)
บริษัท ดิจิทคลาส จำกัด
7/102 หมู่ 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120

chang09

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 34
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #40 เมื่อ: กันยายน 07, 2012, 09:51:23:AM »

ออกเมื่อไรผลิตไม่ทันแน่ๆ
บันทึกการเข้า

NIKOM

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 23
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #41 เมื่อ: กันยายน 07, 2012, 12:37:12:PM »

เป็นความถี่ที่ได้จาก crystal osc แล้วมาหารความถี่ลงให้เลือ 614k เอาท์พุตจะเป็นรูปสามเหลี่ยม ไว้เทียบกับสัญญาณเสียงเพื่อสร้างเป็นสัญญาณพัลล์(PWM) เพื่อขับมอสเฟทต่อไป ความถี่นี้คือความถี่สวิตชิ่งขนาด 614k คงที่นั้นเอง ผมเข้าใจว่าท่านดูจาก servicemanual ของ lab.gruppen รุ่น FP-series มาแน่นอน ซึ่งเป็นรุ่นเก่า แต่ปัจจุบันทาง lab.gruppen ได้พัฒนาวงจรในจุดนี้ให้มีความซับซ้อนน้อยลง ใช้อุปกรณ์ TR,D,R,C เพียงไม่กี่ตัวก็สามารถทำงานได้ ความถี่สวิตชิ่งจะแปรตามสัญญาณที่เข้ามา คล้ายๆระบบ eeengine :thumbsup:


อ. ทิวา เอาวงจรมาลงบ้างซิครับ อยากเห็น  5555+ ++++  :62: :62: :62: :40: :40: :40:
บันทึกการเข้า
นิคม บุญเมือง
               บริษัท ไทยแอโรว์ จำกัด (INJECTION MOLD)
   149 หมู่ 9 ถ.เทพารักษ์ ( กม.20) ต.บางปลา อ.บางพลี
จ.สมุทรปราการ 10540
  ( 089-8142903 AIS )

vesper

  • VIP1
  • Jr. Member
  • ***
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 83
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #42 เมื่อ: กันยายน 08, 2012, 08:22:09:AM »

เป็นความถี่ที่ได้จาก crystal osc แล้วมาหารความถี่ลงให้เลือ 614k เอาท์พุตจะเป็นรูปสามเหลี่ยม ไว้เทียบกับสัญญาณเสียงเพื่อสร้างเป็นสัญญาณพัลล์(PWM) เพื่อขับมอสเฟทต่อไป ความถี่นี้คือความถี่สวิตชิ่งขนาด 614k คงที่นั้นเอง ผมเข้าใจว่าท่านดูจาก servicemanual ของ lab.gruppen รุ่น FP-series มาแน่นอน ซึ่งเป็นรุ่นเก่า แต่ปัจจุบันทาง lab.gruppen ได้พัฒนาวงจรในจุดนี้ให้มีความซับซ้อนน้อยลง ใช้อุปกรณ์ TR,D,R,C เพียงไม่กี่ตัวก็สามารถทำงานได้ ความถี่สวิตชิ่งจะแปรตามสัญญาณที่เข้ามา คล้ายๆระบบ eeengine :thumbsup:
ใช่ครับผมดูจาก servicemanual รุ่น 6400 มาครับ..... :01:
บันทึกการเข้า

pssxsx

  • สมาชิกใหม่
  • *
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 2
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #43 เมื่อ: กันยายน 08, 2012, 11:10:17:AM »

นี่แหละที่ผมรอคอย
เพราะ class d ผมไม่ชอบน้ำเสียงเท่าไร
บันทึกการเข้า

vesper

  • VIP1
  • Jr. Member
  • ***
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 83
Re: เมื่อ Hafler กับ Class-TD มารวมกัน
« ตอบกลับ #44 เมื่อ: กันยายน 08, 2012, 03:35:45:PM »

เป็นความถี่ที่ได้จาก crystal osc แล้วมาหารความถี่ลงให้เลือ 614k เอาท์พุตจะเป็นรูปสามเหลี่ยม ไว้เทียบกับสัญญาณเสียงเพื่อสร้างเป็นสัญญาณพัลล์(PWM) เพื่อขับมอสเฟทต่อไป ความถี่นี้คือความถี่สวิตชิ่งขนาด 614k คงที่นั้นเอง ผมเข้าใจว่าท่านดูจาก servicemanual ของ lab.gruppen รุ่น FP-series มาแน่นอน ซึ่งเป็นรุ่นเก่า แต่ปัจจุบันทาง lab.gruppen ได้พัฒนาวงจรในจุดนี้ให้มีความซับซ้อนน้อยลง ใช้อุปกรณ์ TR,D,R,C เพียงไม่กี่ตัวก็สามารถทำงานได้ ความถี่สวิตชิ่งจะแปรตามสัญญาณที่เข้ามา คล้ายๆระบบ eeengine :thumbsup:


อ. ทิวา เอาวงจรมาลงบ้างซิครับ อยากเห็น  5555+ ++++  :62: :62: :62: :40: :40: :40:
ผมก็อยากเห็นวงจรจริงๆครับ..... :please:
บันทึกการเข้า
 

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.129 วินาที กับ 16 คำสั่ง